ในยุคที่เทคโนโลยี Generative AI หรือ AI แบบสร้างสรรค์กำลังเป็นกระแสอย่างมาก ผู้บริหารระดับสูงหรือ CEO ของบริษัทชั้นนำต่างๆ ก็ไม่พลาดที่จะหันมาให้ความสนใจและนำ Generative AI มาประยุกต์ใช้เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขาย, การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน หรือแม้แต่การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

จากการสำรวจ CEO ของบริษัทชั้นนำกว่า 500 แห่งโดยนิตยสาร Forbes พบว่ามีหลากหลายวิธีที่ CEO เหล่านี้กำลังใช้ Generative AI เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ดังนี้

  1. การสร้างคอนเทนต์และโฆษณาแบบเฉพาะเจาะจง Generative AI ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างคอนเทนต์และโฆษณาที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าแต่ละราย แล้วสร้างสรรค์ข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละคนโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการตอบสนองและยอดขายได้อย่างมาก
  2. การออกแบบสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า Generative AI ยังถูกใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการและปัญหาของลูกค้า ซึ่งช่วยให้ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์สามารถออกแบบสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เช่น การออกแบบสินค้าแฟชั่นที่เข้ากับสไตล์ของลูกค้า หรือการสร้างเมนูอาหารที่เหมาะกับรสนิยมของลูกค้าแต่ละคน เป็นต้น
  3. การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น CEO หลายคนยังใช้ Generative AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในกระบวนการต่างๆ ภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบคุณภาพสินค้า การคัดกรองประวัติผู้สมัครงาน หรือการวิเคราะห์รายงานทางการเงิน ซึ่งช่วยลดความผิดพลาด ลดเวลาการทำงาน และเพิ่มผลผลิตได้อย่างเห็นได้ชัด
  4. การคิดค้นนวัตกรรมและโมเดลธุรกิจใหม่ๆ Generative AI ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยให้ทีมนวัตกรรมขององค์กรสามารถระดมความคิดและจินตนาการได้อย่างเต็มที่ ผ่านการสร้างต้นแบบสินค้า ออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ หรือจำลองสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งช่วยให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมและโมเดลธุรกิจแบบก้าวกระโดด เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระยะยาว

จะเห็นได้ว่า Generative AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในหลากหลายมิติ ผ่านวิสัยทัศน์และการนำของ CEO ที่ล้ำสมัย ซึ่งการนำ Generative AI มาใช้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กรนั้น ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และปั้นนวัตกรรมที่สร้างการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและยั่งยืนท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในยุคดิจิทัล